ศูนย์รวมอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวคุณภาพดี

[เคล็ดลับ] ออกแบบ "ห้องครัว" อย่างมีสไตล์ มีสิ่งใดที่ควรรู้บ้าง

ห้องครัวคือพื้นที่สำคัญของบ้าน พื้นที่ใช้แสดงความรัก ความเอาใจใส่ ที่มาพร้อมกับอาหารอร่อยๆ พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งการใช้เวลาด้วยกันของคนในครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ควรออกแบบให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุดด้วยเช่นกัน แล้วคนมีบ้านจะออกแบบห้องครัวกันอย่างไรดีนะ

ชวนเลือกซื้อวัสดุเพื่อออกแบบห้องครัวอย่างครบครัน มาที่ GRANDHOME เพราะที่ GRANDHOME มีบริการให้คำปรึกษาหลากหลายช่องทาง หากอ่านบทความนี้จบแล้วยังไม่จุใจสามารถทักแชทผ่าน LINE @Grandhomemart หรือโทรหาเราได้ทันทีที่ 02-016-9888

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อออกแบบห้องครัวมีอะไรบ้าง

การออกแบบห้องครัว มีหลายเรื่องให้ต้องคำนึงถึงอย่างที่บอกไปข้างต้น ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย ความสวยงาม และความปลอดภัย เราอยากชวนมาเรียนรู้ทริกเล็กๆ น้อยๆ ในการออกแบบห้องครัวกัน

1.การเลือกกระเบื้องพื้นครัว

การเลือกกระเบื้องพื้นครัวมีความสำคัญไม่แพ้การเลือกกระเบื้องพื้นห้องน้ำ เพราะเป็นพื้นที่ที่อาจมีน้ำหก หรือมากไปกว่านั้นอาจเป็นเศษอาหาร หรือวัตถุดิบในการทำอาหารที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือเกิดคราบสกปรกได้ กระเบื้องพื้นสำหรับห้องครัวจึงควรมีค่ากันลื่นสูง และเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายไปพร้อมกัน

2.การเลือกกระเบื้องผนังครัว

การเลือกกระเบื้องผนังครัวจะมีความคล้ายคลึงกับกระเบื้องพื้นครัว เพราะเป็นพื้นที่ที่อาจมีสิ่งสกปรกได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันกระเด็น หรือเศษอาหารกระเด็น จึงควรเลือกกระเบื้องผนังที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ไม่มีร่องของกระเบื้องมากเกินไป

3.การออกแบบให้แสงสว่างส่องถึง

ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่เกิดความชื้นได้ง่ายไม่แพ้ห้องน้ำ รวมไปถึงมีวัตถุดิบที่อาจไม่พึงประสงค์ จึงควรออกแบบให้แสงแดดส่องถึงเพื่อฆ่าเชื้อโรค

4.การออกแบบให้อากาศถ่ายเท

ในขณะเดียวกันการออกแบบห้องครัวก็ควรออกแบบให้มีอากาศถ่ายเท เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เกิดกลิ่นอับได้ง่าย และอาจส่งกลิ่นไปทั่วทั้งบ้านได้จากการประกอบอาหาร จึงควรมีหน้าต่างระบายอากาศ หรือพัดลมดูดอากาศเอาไว้ด้วย

5.การออกแบบผนังเพดาน

แม้เพดานจะสูง แต่สำหรับห้องครัวที่มีการประกอบอาหารอยู่เสมอ ควันหรือความชื้นก็สามารถลอยขึ้นที่สูงและทำให้เกิดคราบไม่พึงประสงค์ได้ จึงควรออกแบบผนังเพดานให้ทำความสะอาดง่ายไว้ก่อน

6.การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับพื้นที่

สิ่งสำคัญในการออกแบบห้องครัวคือการเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้ห้องครัวสวยงาม ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาหารในห้องครัวได้อีกด้วย ฉะนั้นการเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเสมอ

เข้าใจโซนสำหรับการออกแบบห้องครัว

สำหรับห้องครัวนั้น โดยปกติแล้วจะมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยสำหรับทำกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยจะแบ่งพื้นที่ของห้องครัวหลักๆ เป็น 3 โซน ได้แก่

Zone 1 : พื้นที่สำหรับเก็บของ ทั้งของสดและของแห้ง โดยมีองค์ประกอบหลักเป็นตู้เก็บของ กับตู้เย็น

Zone 2 : พื้นที่สำหรับเตรียมของ และประกอบอาหาร โดยมีองค์ประกอบหลักเคาน์เตอร์ เตาสำหรับประกอบอาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับประกอบอาหารต่างๆ

Zone 3 : พื้นที่สำหรับล้าง และทำความสะอาด โดยมีองค์ประกอบหลักเป็นซิงค์ล้างจาน และที่พักจาน

รูปแบบการวางผังห้องครัวหลากหลายสไตล์

เมื่อทำความรู้จักกับพื้นที่หลักๆ ของห้องครัวทั้ง 3 โซนแล้ว จะช่วยให้เข้าใจหลักการออกแบบห้องครัวในทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ซึ่งได้มีการดีไซน์ผังที่หลากหลาย และไล่โซนไปตามลำดับในทุกๆ ผัง หรืออาจมีการแยกโซน 2 กับโซน 3 ตามความเหมาะสมของพื้นที่และสไตล์ของเจ้าของบ้าน ซึ่งมีด้วยกัน 5 สไตล์ได้แก่

สไตล์ครัวแบบ I หรือ I-Shaped Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวไอ ซึ่งอาจวางแบบชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง รูปแบบนี้เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก 3-5 ตร.ม.

สไตล์ครัวแบบ L หรือ L-Shaped Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล อาจแนบไปกับมุมผนังห้อง เหมาะกับพื้นที่ตั้งแต่ 6 ตร.ม. ขึ้นไป

สไตล์ผังครัวแบบ U หรือ U-Shaped Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์ในรูปแบบตัวยู ซึ่งอาจจะออกแบบให้ชิดผนังทั้ง 3 ด้าน หรือชิดผนังเพียงสองด้านก็ได้เช่นกัน โดยเหมาะกับพื้นที่ 12 ตร.ม. ขึ้นไป

สไตล์ครัวแบบเส้น 2 ด้าน หรือ Gallery Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์อยู่ในด้านตรงข้ามกัน เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องครัวให้เดินผ่านสะดวก เหมาะกับพื้นที่ 9 ตร.ม. ขึ้นไป

สไตล์ครัวแบบเกาะกลาง หรือ Island Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์ในรูปแบบตัวยู แล้วเพิ่มเคาน์เตอร์หรือเตาประกอบอาหารไว้ตรงกลาง ซึ่งอาจออกแบบให้เป็นล้อเลื่อนเพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายก็ได้ เหมาะกับพื้นที่ 12 ตร.ม. ขึ้นไป

สไตล์ครัวแบบ G หรือ G-Shaped Kitchen : เป็นการวางเคาน์เตอร์ในรูปแบบตัวจี โดยจะวางเคาน์เตอร์หลักเป็นตัวยู และเพิ่มเตาประกอบอาหารหรือเคาน์เตอร์เล็กต่อขึ้นมาเป็นด้านที่สี่เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เหมาะกับพื้นที่ 12 ตร.ม. ขึ้นไป

สรุป

เพราะการออกแบบห้องครัวช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คนในบ้านใช้ครัวได้อย่างปลอดภัย และเพิ่มสไตล์ให้กับบ้านของเรามากยิ่งขึ้น การทำความเข้าใจการออกแบบห้องครัวจึงสำคัญ ซึ่งทุกคนสามารถเอาหลักออกแบบนี้ไปปรับให้ตรงตามการใช้งานและความชอบของตัวเองได้เพิ่มเติม

ตามหาวัสดุอุปกรณ์ สำหรับห้องครัว หลากหลายแบรนด์ หลากหลายสไตล์ได้ที่ GRANDHOME ผู้จำหน่ายกระเบื้องและวัสดุก่อสร้างชั้นนำ มั่นใจได้กับการให้บริการมากว่า 40 ปี โดยมีทั้งกระเบื้อง อุปกรณ์ ของใช้หลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร

สามารถเข้าไปเยี่ยมชม หรือสำรวจไอเดียการออกแบบห้องครัวได้ทั้ง 6 สาขา หรือเข้าไปดูในช่องทางออนไลน์ทั้งเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก สั่งซื้อครบ 3,000 บาท ส่งฟรีในกรุงเทพและปริมณฑล